สายอีเธอร์เน็ตคุณภาพสูงสำหรับการเล่นเกมควรมีคุณสมบัติหลักคือความหน่วงต่ำ มีความเสถียร และต้านทานการรบกวน เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะเพียงแค่ไม่กี่มิลลิวินาทีก็สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้ เครือข่ายสำหรับเล่นเกมต้องการการไหลของข้อมูลที่สม่ำเสมอพร้อมจีตเตอร์ (jitter) น้อยที่สุด ทำให้สายประเภท Cat6 หรือสูงกว่านั้นดีกว่า Cat5e เนื่องจากมีมาตรฐานที่เข้มงวดกว่าในเรื่องของเสียงรบกวนแบบครอสทอล์ก (crosstalk) และการสูญเสียสัญญาณ (attenuation) โดย Cat6 มีแบนด์วิดธ์ 250 MHz รองรับความเร็ว 10 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ได้ไกลถึง 55 เมตร ช่วยลดคอขวด (bottlenecks) ในช่วงที่เล่นเกมหรือสตรีมมิ่งอย่างหนัก สายแบบมีเกราะป้องกัน (STP หรือ FTP) เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) สูง เช่น ใกล้เราเตอร์ ไมโครเวฟ หรือเครื่องเล่นเกม เพราะชีลด์โลหะจะช่วยบล็อกสัญญาณรบกวนจากภายนอกที่อาจทำให้แพ็กเก็ตข้อมูลหายไป ความบริสุทธิ์ของทองแดงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง สายที่ใช้ทองแดงบริสุทธิ์ 99.9% แบบปราศจากออกซิเจน (OFC) จะให้การนำไฟฟ้าดีกว่าและสูญเสียสัญญาณน้อยกว่าสายที่ทำจากอลูมิเนียมเคลือบทองแดง (CCA) คุณภาพของตัวเชื่อมต่อก็สำคัญเช่นกัน หัวต่อ RJ45 ที่ชุบด้วยทองสามารถต้านทานการกัดกร่อน ช่วยให้การเชื่อมต่อยังคงเสถียรภาพในระยะยาว ในขณะที่ปลอกหุ้มแบบ snagless จะช่วยปกป้องสายจากความเสียหายเมื่อต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ความยาวของสายก็สำคัญมาก การใช้สายยาวเกินไป (เกิน 100 เมตร) จะเพิ่มความหน่วง ดังนั้นผู้เล่นเกมควรใช้สายที่สั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น เช่น 1.5 เมตรสำหรับการต่อระหว่างเครื่องเล่นเกมกับเราเตอร์ สำหรับการเล่นเกมเชิงแข่งขัน สาย Cat6a ดีกว่า เพราะรองรับความเร็ว 10 กิกะบิตต่อวินาทีได้ไกลถึง 100 เมตร ด้วยแบนด์วิดธ์ 500 MHz ซึ่งสามารถรองรับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นในอนาคต ควรหลีกเลี่ยงสายที่แบนหรือยืดหยุ่นเกินไป เพราะมักจะเสียสมดุลโครงสร้างคู่สายบิด (twisted pair) ไป ทำให้เกิดการรบกวนมากขึ้น ในที่สุดสายอีเธอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมควรให้ความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการใช้งานจริง: มีเกราะป้องกัน อยู่ในประเภท Cat6 หรือสูงกว่า ใช้ทองแดงที่มีความบริสุทธิ์สูง และมีตัวเชื่อมต่อที่ทนทาน เพื่อให้ความหน่วงต่ำที่สุดและความน่าเชื่อถือสูงสุดในช่วงเวลาสำคัญของการเล่นเกม