ตัวต่อสายสัญญาณแบบโคแอกเชียลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การส่งสัญญาณในระบบสื่อสารมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยประเภทของตัวต่อจะถูกแบ่งตามลักษณะการออกแบบ การใช้งาน และสมรรถนะเป็นหลัก ตัวต่อที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ตัวต่อ BNC ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในระบบกล้องวงจรปิดและการส่งข้อมูลระยะใกล้ เนื่องจากมีระบบล็อกแบบบายนีต (bayonet coupling) ที่ช่วยให้ติดตั้งและถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว อีกประเภทคือตัวต่อแบบ N type ซึ่งมีโครงสร้างแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ความถี่สูง เช่น สถานีฐาน 5G และระบบไมโครเวฟ ตัวต่อชนิดนี้ให้ค่าความต้านเชิงภาพถ่าย (impedance) ที่แม่นยำ (โดยทั่วไปที่ 50 โอห์ม) และสามารถกันน้ำได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร ตัวต่อ SMA มีขนาดเล็กและใช้ระบบเกลียวในการยึดต่อ จึงพบได้บ่อยในอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เช่น ตัวกระจายสัญญาณ (router) และเครื่องมือวัดทดสอบ รองรับความถี่สูงสุดถึง 18 GHz ส่วนประเภทอื่นๆ ได้แก่ ตัวต่อ TNC ซึ่งรวมเอาการออกแบบแบบบายนีตของ BNC และความมั่นคงของระบบเกลียวจากตัวต่อแบบ N type เข้าไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีแรงสั่นสะเทือน และตัวต่อ F type ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบเคเบิลทีวีและดาวเทียม เนื่องจากมีโครงสร้างเรียบง่ายและราคาประหยัด ในการเลือกตัวต่อ ความเข้ากันได้กับค่าความต้านเชิงภาพถ่ายของสาย (50 หรือ 75 โอห์ม) ช่วงความถี่ที่รองรับ และสภาพแวดล้อม (ใช้ภายในหรือภายนอกอาคาร มีโอกาสสัมผัสน้ำหรือฝุ่นหรือไม่) ถือเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น ในระบบสายส่งสัญญาณ 5G เช่น รุ่น KC97 ที่ผลิตโดยบริษัท Hebei Mailing มักนิยมใช้ตัวต่อแบบ N type หรือ SMA เพื่อให้แน่ใจว่ามีการสูญเสียของสัญญาณต่ำที่สุด และให้สมรรถนะที่เชื่อถือได้ในการส่งสัญญาณความถี่สูงและอัตราข้อมูลสูง